ตับแข็ง ระยะสุดท้าย รักษาได้ไหม พบทางออก ด้วยแพทย์ทางเลือก กับนวัตกรรมสมุนไพร สกัดเข้มข้น พร้อมกับเจลเย็น ฟื้นฟูตับ เร่งด่วน และทาน อาหารเสริมตับ ให้ตับกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อ่านรีวิวผู้ใช้จริง บอกเล่า แชร์ประสบการณ์ วิธีดูแลรักษา ผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้าย อย่างละเอียด
Case 1. โรคตับแข็งจากสุรา : นายธนกรณ์ อายุ 58 ปี เป็นชาวจังหวัด สุรินทร์ ป่วยเป็นโรคตับแข็ง ระยะสุดท้าย สาเหตุชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ เป็นตับแข็งเพราะดื่มสุรา เมื่อปี พ.ศ.2563 ไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่าเป็นโรคตับแข็ง ได้รักษามาได้ระยะเวลา ไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่า เป็น ตับแข็ง ระยะสุดท้าย แล้ว รักษาตามอาการได้เท่านั้นไม่มียารักษาตับ อาการดังนี้
- ท้องใหญ่ มาน โต
- ทานอาหารไม่ได้ ท้องอืด
- น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
- ตาเหลือง
- นอนไม่หลับ ไม่มีแรง อ่อนเพลีย
- เจ็บใต้ชายโครงด้านขวาบน
- มีอาการท้องมาน แขน ขาบวม
- คลำพบก้อนเนื้อบริเวณตับ
นอกจากนั้น ยังมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ยิ่งพอรู้ว่า เป็น โรคตับแข็งระยะสุดท้าย แล้วยิ่งหมดกำลังใจ กันทั้งบ้านเลย โดยเฉพาะคุณแม่ ท่านก็พลอยกลุ้มใจเป็นอย่างมาก เพราะหมดหนทาง หาทางออกในการรักษาไม่ได้จริงๆ
นับว่าเป็นความโชคดีของผม อย่างเหลือเชื่อ ผมได้เจอ”คุณปุ๊ก” ทางอินเตอร์เน็ต ได้แนะนำ แพทย์ทางเลือก ในการรักษาผู้ป่วย โรคตับแข็ง ด้วยนวัตกรรมสมุนไพรสกัด เข้มข้น อาหารเสริมตับ จากผลงานวิจัยของ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ซึ่งได้ทำตามขั้นตอนการรักษา อย่างเคร่งครัด รวมทั้งงดอาหารแสลง
หลังจากทานสมุนไพรรักษาตับ พร้อมทำเจลประคบเย็น วันละ 6 รอบได้ 2 วัน ปรากฏว่า ได้ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นคือ มีการขับถ่ายที่ดี มากๆ เหมือนร่างกายขับของเสีย ออกมา วันแรกขับถ่าย ได้ถึง 6 ครั้ง และการปัสสาวะออกมา ดีจริงๆ โดยที่ไม่รู้สึกอ่อนเพลียเลย หลังจากนั้น ก็สามารถ ลุกเดิน เข้าห้องน้ำเองได้ ลุกขึ้นนั่ง ทานอาหารได้ อยากทานข้าว ตอนที่คุณพ่ออยู่โรงพยาบาล วันแรกนั้นอยู่ในห้อง ICU. เพราะต้องเจาะท้องระบายน้ำออก รวมทั้งสวนสายปัสสาวะ พอครบวันที่ 7 เราก็ขอกลับบ้าน เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายและสะดวกในการทานสมุนไพรและทำเจลประคบเย็น พอครบ 1 เดือน พาคุณพ่อกลับไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลปรากฎว่าค่าตับดีขึ้น อย่างน่าอัศจรรย์ใจจริงๆเลยครับ จนคุณหมอท่านก็แปลกใจว่าทำไม อาการดีขึ้นมาก ทำให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง
ผมและครอบครัวต้องขอขอบคุณ “คุณปุ๊ก” และท่าน ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ที่ได้ให้คำแนะนำดีๆ ระหว่างการทานสมุนไพรรักษาตับ และผลิตภัณฑ์สินค้าสมุนไพรที่ช่วยให้ฟื้นฟูโรคตับแข็งระยะสุดท้าย ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ และขอแนะนำท่านที่มีอาการโรคตับแข็ง ให้ลองเปิดใจรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกดูครับ
แพทย์ทางเลือก การรักษาผู้ป่วยโรคตับ มีวิธีปฎิบัติ มีดังนี้
ภาพสแกน MRI แสดงอวัยวะภายในช่องท้อง ดูรูปร่างภายในของตับ วัดขนาด ความสมบูรณ์ของตับ ค่าสแกนประมาณ 28,000 บาท
A.การทานสมุนไพรสกัดเข้มข้น “ชุดฟื้นฟูตับเร่งด่วน“
สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ช่วยฟื้นฟูโรคตับ มีดังนี้
อาชิตองค์ โกลด์ : สารสกัดจากสมุนไพรรวม 6 ชนิด ได้แก่ คาวตอง,ใบหม่อน,มะระขี้นก,ชาเขียว,มะขามป้อม,ขมิ้นชัน มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรดังกล่าว ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ และยังช่วยปรับสมดุลย์น้ำตาลในเลือด คอเรสเตอรอล สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
กรีนเคอมิน : มีสารสกัดจากขมิ้นชั้น เคอร์คูมินอยด์ ที่สามารถละลายน้ำได้ 16,000 เท่า และยังดูดซึมได้กว่า 90% มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการลดอาการท้องอิด อาหารไม่ย่อย ดูแลโรคกระเพาะอักเสบและกรดไหลย้อน
โอลิซา คิวเทน : มีแกรมม่า ออริซานอล สูงถึง 100 มก.,เซวามิน,โคเอ็นไซม์ คิวเท็น มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการช่วยลดคอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้นอนหลับลึก ช่วยในการไหลเวียนของเลือด
มัลวิน : ได้รวมเอาวิตามินที่ร่างกายต้องการไว้ใน 1 เม็ด 1,000 มก.ประกอบด้วย วิตามิน B1,B2,B5,B6,B12,C,Selenium วิตามินรวม มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ไวเลอตอง : สารสกัดจากคาวตองเข้มเข้น 300 มก.ต่อ 1 แคปซูล มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการช่วยยับยั้งไวรัสและทำลายเชื้อแบคทีเรีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
เจลประคบเย็น : เป็นนวัตกรรมใหม่โดยใช้ความเย็นในการช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ,ไต ช่วยในการทำให้ระบบน้ำเหลืองไหลเวียนดีขึ้น
วิธีรับประทาน สมุนไพรให้ได้ผลลัพธ์ เต็มประสิทธิภาพ
- โทร.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี วิธีรับประทานที่ถูกต้อง ครบโด้ช เพื่อให้ออกฤทธิ์เห็นผลเร็ว
พร้อมกับดื่ม ไดเอทโปร Di8Pro มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน ทดแทนมื้ออาหารได้ เป็นอาหารเสริมตับ อาหารบำรุงตับ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ภายใน 15 นาทีเลย โดยเฉพาะไปซ่อมแซมบำรุงตับได้ดี จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคตับเป็นอย่างยิ่ง
***อาหารที่ผู้ป่วยโรคตับ ไม่ควรทาน ได้แก่ เนื้อสัตว์ ให้ทาน เนื้อปลาแทน งดอาหารของทอดและมัน งดทานสารสีขาว คือ เกลือ น้ำตาล แป้ง งดอาหารประภทปิ้ง-ย่าง-ทอด-มัน ***
B.ใช้เจลเย็นประคบรอบท้องวันละ 5-6 รอบ
ให้ใช้ชุดเจลเย็น มาพันรอบตัว ในแนวสะดือ ลงมาด้านข้างและอ้อมไป ด้านหลัง พันให้รอบตัว แล้วใช้ผ้ายางรัดรอบตัวรัดไว้ให้แน่น เป็นการใช้ความเย็นเข้าไปช่วยฟื้นฟูตับ ไตและถุงน้ำดี ให้กลับมามี ประสิทธิภาพ เมื่อแผ่นเจล หายเย็นแล้ว พักไว้ 15 นาที แล้วนำแผ่นเจลเย็น มาพันรอบตัวใหม่ ส่วนแผ่นเดินนั้น ให้นำไปแช่ตู้เย็น ช่องฟรีซ เพื่อจะได้เย็นเหมือนเดิม ทำแบบนี้ วันละ 6 รอบ เคล็ดลับ ของวิธีนี้ก็คือ การรีดน้ำเหลือง ใช้วิธีประคบเย็น ช่วยให้ระบบน้ำเหลือง ที่คั่งค้างในตับ ไต ถุงน้ำดี เกิดการหมุนเวียน ดีขึ้น จะส่งผลให้ตับเกิดการฟื้นฟู ได้เร็วขึ้น
กรณีท้องบวม ให้ทำการขันเชนาะโดยใช้ผ้ายางยืด(สีน้ำตาล) มาพันรอบท้อง ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วคลายออก สลับกับการทำเจลประคบเย็น ทำ 3 ครั้งใน 1 วัน
กรณีขาบวม ให้ทำการขันเชนาะโดยใช้ผ้ายางยืด(สีน้ำตาล) มาพันตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นไปจนถึงโคนขา ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วคลายออก ทำ 3 ครั้งใน 1 วัน
***กำลังใจผู้ป่วย เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อย่าให้ผู้ป่วยเครียดเด็ดขาด! ญาติต้องคอยพูดให้กำลังใจ ร่วมกันต่อสู้กับโรคร้าย สวดมนต์ภาวนา ทำบุญตักบาตร เป็นวิถีแนวพุทธที่ดีมากๆ และหากรักษาดูแลตามวิธีข้างต้น ทั้งกินยาตามขนาดอย่าให้ขาดและประคบเจลเย็นสม่ำเสมอ มีวินัยที่เข้มงวด เขาก็จะอยู่กับเราได้อีกนาน
ภาพ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร แสดงการใช้เสื่อเจลเย็น(นำมาจากประเทศญี่ปุ่น) พันรอบเอว ความเย็นจะอยู่ได้นานถึง 3 ชม.ท่านดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร แห่งสถาบันวิจัยชั้นนำของไทย(NSPi) ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ใว้สั้นๆเข้าใจง่ายมาก ดังนี้ครับ …”การใช้ความเย็นเป็นการทำให้หลอดเลือดและท่อน้ำเหลืองหดตัวบีบให้น้ำเหลืองออกมาแล้วย้อนกลับสู่เส้นเลือดเพื่อขจัดทิ้งกลายเป็นปัสสาวะออกไป ทำให้สาร inflammatory cytokines และสารอื่นๆที่ไม่ดีทั้งหลายถูกขจัดออกไป เสมือนกับการถ่ายน้ำมันเครื่องของรถ”
*ผลลัพท์ที่ได้อาจเปลี่ยนไปตามแต่ละบุคคล*
Case 2 : ไวรัสตับอักเสบบี ค่าตับสูง ทานชุด”ฟื้นฟูตับ” แล้วค่าตับลดลงจนเป็นปกติ อย่างมีนัยสำคัญ
คุณอาจิน สังข์ทอง อายุ 55 ปี มีปัญหาสุขภาพดื่มเหล้ามาก เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ทานชุด “ฟื้นฟูตับ”ไป 1 เดือน แล้วไปตรวจค่าตับอย่างละเอียด ปรากฎว่า ค่าตับเกือบทุกตัวลดลงจนเป็นปกติ ค่า ALT(SGPT) ลดลงจาก 119 เหลือ 65 และค่า AST(SGOT) ลดลงจาก 56 เหลือ 25 ค่าปกติอยู่ที่ 40 ตอนนี้ทานต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูตับให้กลับมาทำงานปกติ อาการที่รู้สึกได้คือ ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่น นอนหลับสนิท ตื่นเช้ามาสดใส มีเรี่ยวมีแรง ทานอาหารอร่อย การขับถ่ายดี
หากไม่ได้รักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี และปล่อยทิ้งใว้เป็นเวลานาน ก็จะกลายเป็นไวรัสตับอักเสบซี ผลทำให้ตับอักเสบและเป็นโรคตับแข็ง และมีจำนวนหนึ่งเป็น มะเร็งตับ ในที่สุด สำหรับคนในครอบครัวก็ต้องระมัดระวังการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ด้วยเช่นกัน
*ผลลัพท์ที่ได้อาจเปลี่ยนไปตามแต่ละบุคคล*
Case 3 :ตับแข็ง ระยะสุดท้าย สาเหตุเกิดจาก ทานยามานาน กรณีนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิง สูงอายุ ไม่เคยดื่มสุรา เครื่องดื่มที่มีอัลกอฮอร์ มาก่อนเลย สาเหตุหลัก เกิดจากการ ทานยา มานานหลายปี เช่นยาลดเบาหวาน ความดัน ยาแก้โรคเก๊าท์ ยาแก้ปวด และยาปฎิชีวนะ ที่มีส่วนผสมของสารสเตอร์รอยด์ เป็นต้น ซึ่งยาเหล่านี้เป็นเคมี เวลาทานเข้าไป จะไปตกค้างอยู่ที่ ไตและตับ เมื่อสะสมใว้เป็นเวลานาน จะทำให้ตับเกิดการอักเสบ จนกลายเป็นตับแข็งได้ในที่สุด ดังนั้นจึงขอเตือนมายังท่านที่ชอบทานยา เหล่านี้ ให้หลีกเลี่ยงเสียตั้งแต่บัดนี้
*ผลลัพท์ที่ได้อาจเปลี่ยนไปตามแต่ละบุคคล*
Case 4 :รักษาโรคกระเพาะมาหลายปี เป็นตับแข็ง ไม่รู้ตัว ท้องเริ่มบวม
กรณีของคุณหยก ชาว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อายุ 56 ปี เริ่มมีอาการมา 3 ปี หมอบอกเป็นโรคกระเพาะ รักษาผิดกินยาลดกรดมา 3 ปี ตรวจค่าตับ มีค่าตับอักเสบสูงเกินมาตรฐาน มีภาวะไขมันพอกตับ รู้สึกเจ็บบริเวณใต้ชายโคลงขวา ท้องอืด และท้องเริ่มบวม เดือน พ.ย.64 ได้เจอคุณปุ๊ก จัด”ชุดฟื้นฟูตับ” ให้ทานควบคู่กับโปรตีนไดเอทโปร อาหารเสริมตับ พร้อมทำเจลประคบเย็น วันละ 6 รอบ ทานอาหารมังสวิรัต ทำจิตใจให้สดใส อาการเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนแรก ทานชุดฟื้นฟูตับต่อเนื่อง เดือนที่ 5 ออกกำลังกายเบาๆ เต้นโชว์ใน TikTok พบแฟนคลับ กำลังใจดีมาก ได้ชีวิตใหม่ “หยกดีใจมากเลยค่ะ ขอขอบคุณท่าน ดร.ณสพน ที่ผลิตสินอาหารเสริมที่ดีมีคุณภาพมาให้ทาน และขอขอบคุณคุณปุ๊กที่คอยให้คำแนะนำปรึกษาและให้กำลังใจ ตลอดระหว่างการทานอาหารเสริมค่ะ หยกยินดีเผยแพร่ ให้ผู้ป่วยรายอื่นได้หายจากโรคตับ เหมือนกับหยกนะค่ะ”
*ผลลัพท์ที่ได้อาจเปลี่ยนไปตามแต่ละบุคคล*
Case 5 :รักษาโรคตับแข็ง ที่โรงพยาบาล หมดค่ารักษาไป 2.5 ล้านบาท
คุณบุญช่วย บุญท้วม จ.ชลบุรี อายุ 67 ปี ได้มาแชร์ประสบการณ์ การรักษาโรคตับแข็ง ที่ สำนักงานใหญ่ cci เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2565 บอกเล่าเรื่อราววิธีการรักษาโรคตับแข็ง ด้วยตัวเอง โดยใช้แพทย์ทางเลือก นวัตกรรมสมุนไพร ฟื้นฟูโรคตับแข็ง ซึ่งเริ่มมีอาการท้องมาน เจ็บใต้ชายโครงขวา ท้องอืด ทานอาหารไม่ได้ ขาบวม นอนไม่ค่อยหลับ อ่อนเพลีย ไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน โดยมีหมอมาตรวจอาการถึง 4 คน ทั้งหมอโรคตับ โรคไต โรคกระเพาะ รักษา 1 เดือน หมดค่ารักษาไป 2.5 ล้านบาท ทางโรงพยาบาล มีแต่ตรวจอาการ ไม่มียารักษาตับให้ทานเลย จนค้นเจอคุณปุ๊ก ในอินเตอร์เนท และได้ให้ผู้ช่วย ขับรถจากชลบุรี มาพบคุณปุ๊ก ที่นนทบุรี เพื่อขอรับคำปรึกษา และวิธีการทานนวัตกรรมสมุนไพร รวมวิธีการใช้เจลประคบเย็นและทาน อาหารเสริมตับ แล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ทำตามคำแนะนำ และทานยาอย่างเคร่งครัด ผลปรากฏว่า อาการต่างๆเริ่มดีขึ้น เป็นลำดับ ปัจจุบบัน ทาน”ชุดฟื้นฟูตับ“ต่อเนื่อง สุขภาพแข็งแรง นอนหลับสบาย ทานอาหารอร่อย และเดินทางไปเที่ยว เชียงใหม่ เชียงราย และพึ่งกลับมาจากเที่ยวที่ปีนัง ไม่มีอาการเหนื่อย เพลียเลย ขอขอบคุณ “ท่าน ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ที่ผลิตสินอาหารเสริมที่ดีมีคุณภาพมาให้ทาน และขอขอบคุณ คุณปุ๊กที่คอยให้คำแนะนำปรึกษาและให้กำลังใจ ตลอดระหว่างการทานอาหารเสริม”
*ผลลัพท์ที่ได้อาจเปลี่ยนไปตามแต่ละบุคคล*
Case 6. โรคตับแข็งจากสุรา :คุณยายวาน อายุ 65 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เป็นโรคตับแข็งจากการดื่มสุรา มีอาการท้องมาน ขนาดเท่าคนท้อง 6 เดือน ค่าตับอักเสบ SGOT สูงกว่า 358 ตาเหลือง น้ำหนักลดฮวบฮาบ ลูกสาวกังวลมาก หมอบอกอยู่ได้ไม่กี่เดือน เพื่อนบ้านมาเยี่ยมบอกอยู่ได้ไม่เกินเดือน ค้นกูเกิ้ล เจอคุณปุ๊ก ได้สั่งชุดฟื้นฟูตับ 1 เดือนไปทาน พร้อมโปรตีนไดเอทโปร และทำเจลประคบเย็น วันละ 4-6 รอบ หลังจากทานได้ 7 วัน อาการดีขึ้นมาก มีเรี่ยวแรง ไม่อ่อนเพลีย นอนหลับได้ ท้องค่อยๆยุบลง อาการตอดที่ท้อง เจ็บแปล๊บ ดีขึ้นเรื่อยๆ คุณปุ๊กคอยให้คำแนะนำวิธีการรักษาเป็นอย่างดี พอทานครบ 1 เดือน ไปตรวจที่โรงพยาบาล ค่าตับอักเสบ ลดลงเหลือ 73.1 และทานต่อเนื่องตลอดมา ต้องขอขอบคุณ”คุณปุ๊ก”มากเลยค่ะ ที่ให้คำแนะนำและคอยให้กำลังใจเป็นอย่างดี
กรณีที่ต้องการบำบัดด้วยนวัตกรรมความเย็น โดยแช่ในอ่างน้ำเย็น ซึ่งจะให้ผลลัพท์ ได้ดีกว่าการใช้เจลประคบเย็น โดยเฉพาะผู้ป่วย มะเร็งตับ โดยแช่ครั้งละ 15 นาทีแล้วพัก 15 นาที แล้วกลับลงไปแช่ใหม่ ทำให้ได้ วันละ 5-6 รอบ จะเห็นผลชัดเจนเป็นอย่างมาก ดูรูปภาพประกอบ
ตับแข็ง ระยะสุดท้าย เมื่อเข้าไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งที่โรงพยาบาลไม่มียารักษา เพียงแต่เป็นการดูแลไปตามอาการ เท่านั้น และสุดท้ายก็ต้องกลับบ้าน ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะได้รับยาเหมือนๆกัน คือ
- ยาขับปัสสาวะ
- ยาระบาย
- ยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ
- วิตามินบำรุง
- ให้เกล็ดเลือด กรณีเกล็ดเลือดต่ำ
- ยาแก้ปวด
- อัลบูมิน โปรตีนจากไข่ขาว
- เจาะน้ำออกจากท้อง กรณีท้องบวมและมีน้ำในช่องท้องมาก เพราะหากไม่เจาะออก จะเกิดอาการไตวายได้
ตับแข็งระยะสุดท้าย อาการก่อนเสียชีวิต
ผู้ป่วยโรคตับแข็ง หากไม่ได้รับการรักษา อย่างถูกวิธี จะเกิดภาวะตับอักเสบรื้อรัง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต มีอาการก่อนเสียชิวิต ดังนี้
- เกิดภาวะท้องบวมน้ำ ท้องโต ท้องมาน บวมเป่ง ต้องรีบเจาะเอาน้ำออกจากท้อง หากไม่เจาะเอาน้ำออกจากท้อง จะทำให้น้ำดันไปที่ไต เกิดภาวะไตวาย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ทันที
- มีอาการเพ้อ ละเมอ ตับอักเสบอย่างรุนแรง เจ็บบริเวณตับ อย่างมาก ตับไม่สามารถผลิตแร่ธาตุและวิตามิน ที่จำเป็นต่อร่างกายได้
- มีไข้ หนาวสั่น ไม่ทราบสาเหตุ ความเย็นลงที่ปลายประสาทเท้า ให้สวมถุงเท้าให้ผู้ป่วย จะช่วยลดอาการหนาวสั่นได้
- น้ำตาลในเลือดขึ้นลงเร็ว เกิดผลกระทบต่อตับอ่อน ไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ มีภาวะเบาหวาน น้ำตาลแกว่ง ขึ้นเร็ง ลงเร็ว ทำให้ผู้ป่วยอ่อนล้า อ่อนแรง เกิดอาการช๊อคได้ กรณีนี้ให้ผสมน้ำหวานให้ผู้ป่่วยดื่ม จะช่วยให้มีน้ำตาลในเลือด
- มีภาวะไตเสื่อม ไตไม่ขับน้ำ สังเกตุจากขาบวม เท้าบวม ส่งผลให้ผู้ป่วยจะเสียชีวิตจากภาวะไตวาย วิธีแก้ไข ให้ขันเชนาะรีดน้ำเหลือง เพื่อลดอาการบวมน้ำ รวมทั้งการใช้เจลประคบเย็น วันละ 5-6 รอบ
- ผู้ป่วยไม่สามารถทานอาหารได้ อวัยวะภายใน ระบบย่อยและดูดซึมอาหาร ไม่ทำงาน อยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องให้อาหารทางสายยาง และเครื่องช่วยหายใจ สามารถเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
สาเหตุหลักที่ผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้ายเสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยอ่อนเพลียขาดสารอาหารที่ไปให้พลังงานแก่ร่างกาย หมดเรี่ยวแรงและเสียชีวิตไป อีกสาเหตุคือ เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และผู้ป่วยที่ให้เคมีบำบัด ยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายโดยรวมอ่อนแอลง ส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเร็วขึ้น
ตับแข็ง ระยะสุดท้าย เมื่อร่างกายอ่อนหล้า รับประทานอาหารไม่ได้ ร่างกายจะขาดสารอาหาร จนไม่มีเรี่ยวแรงต่อสู้กับโรคตับแข็งได้ กรณีนี้ให้ทาน อาหารเสริมตับ โปรตีน Di8Pro ครั้งละ 1 ซอง ทดแทนอาหารได้ 1 มื้อ วันละ 2-3 เวลา 
จึงเหมาะสำหรับเป็น อาหารเสริมตับ ที่มีสารสกัดที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยั้งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายภายใน 15 นาที จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นครบถ้วน ทำให้มีเรี่ยวแรงต่อสู้กับโรคตับแข็งได้ ข้อพึงระวังมีโปรตีนบางยี่ห้อในท้องตลาด ที่ไม่ได้เป็นสารสกัดทำให้เกิดการตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารต้องใช้ขบวนการย่อยนาน 300 นาที ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด หายใจไม่ออก อันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
กรณีผู้ป่วย ตับแข็ง ระยะสุดท้าย มีอาการท้องผูก ไม่แนะนำให้ทานยาระบายเด็ดขาด ซึ่งยาระบายจะไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ตายหมด และยาระบายมีสารเคมีไปตกค้างที่ตับ ยิ่งทำให้ตับทำงานหนักขึ้น แนะนำให้ญาติผู้ป่วย ทำน้ำปั่นผักรับประทาน 2-3 เวลา คลิกอ่านรายละเอียด วิธีทำน้ำปั่นผักสูตรผู้ป่วยโรคตับ 
คุณนิตยา นนทบุรี อายุ 39 ปี แชร์ประสบการณ์ วิธีรักษามะเร็งตับอ่อน อย่างละเอียด รับชมวิดีโอ
คลิกอ่านวิธีรักษาด้วยนวัตกรรมใหม่ อย่างละเอียด
การันตีด้วยรางวัลความสำเร็จ นวัตกรรมงานวิจัยระดับโลก ที่เดียวในประเทศไทย
คำแนะนำจากนักวิจัยในการเลือกทานอาหารเสริม
- ควรทานจากแหล่งผลิต โรงงาน ที่น่าเชื่อถือ ทั้งมาตรฐานการผลิตและกรรมวิธีการสกัดสารสมุนไพร
- ต้องอยู่ในรูป water soluble สามารถดูดซึมไปใช้งานได้จริง
- ควรทานในโด้ชที่เพียงพอต่อการรักษา และทานต่อเนื่อง
- ควรหาสารสกัดหลายชนิดมาทานร่วมด้วย ซึ่งสารสกัดแต่ละตัวช่วยฟื้นฟูสุขภาพแต่ละด้าน และสารสกัดเหล่านั้นต้องมีรายงานจากการวิจัยทั่วโลกว่าไปดูแลรักษาร่างกายแต่ละส่วนได้อย่างชัดเจน
- ให้สังเกตุการตอบสนองของร่างกาย อย่างน้อยภายใน 3 วัน หรือ 72 ชม.ต้องมีผลตอบรับของร่างกายในทางที่ดีขึ้น และเมื่อทานครบ 1 เดือน สามารถไปตรวจวัดค่าต่างๆของร่างกาย จากทางห้องแลป โดยมีค่าผลตรวจดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อาหารผู้ป่วยโรคตับแข็ง ไม่ควรรับประทาน มีดังต่อไปนี้
- เนื้อสัตว์ทุกชนิด *ทานเนื้อปลาได้*
- อาหารทะเล มีความเค็มทำให้ไตทำงานหนัก
- อาหารประเภท ปิ้ง-ย่าง-ทอด-มัน
- สารสีขาว เกลือ-น้ำตาล-แป้ง
- เนื้อ-นม(จากสัตว)-ไข่
- ผลไม้ที่ทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร
- ข้าวเหนียว ทำให้ท้องอืด ย่อยนาน
โรคตับแข็ง ยาอะไรที่ต้องงด เพราะตกค้างที่ตับ ยิ่งทำให้ตับทำงานหนักขึ้นไปอีก
- ยาลดกรด-ยาเคลือบกระเพาะ
- ยาขับปัสสาวะ หากปัสสาวะเองได้ ไม่ต้องทาน
- ยาระบาย แก้ท้องผูก เพราะทำลายจุลินทรีย์ในลำไส้
ยารักษาตับ ที่ผู้ป่วยได้รับจากโรงพยาบาลทั่วๆไป ซึ่งเป็นยารักษาตามอาการมีดังนี้
- ยาระบาย เนื่องจากผู้ป่วยโรคตับแข็ง มีภาวะไม่ขับถ่าย ท้องผูก จึงใช้ยาระบายช่วยขับถ่าย ข้อเสียทำให้จุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ตาย ทำให้ไม่สามารถขับถ่ายได้เองตามธรรมชาติ
- ยาขับปัสสาวะ ผู้ป่วยตับแข็งมีภาวะไตทำงานได้น้อย จึงใช้ยาขับปัสสาวะ แต่ตัวยาขับปัสสาวะ จะตกค้างที่ตับ ทำให้ตับอักเสบมากขึ้น
- ยาลดกรด-ยาเคลือบกระเพาะ ผู้ป่วยตับแข็ง จะมีอาการกรดไหลย้อนตามมาด้วย บางรายเสียชีวิตเนื่องจากเกิดอาการกรดไหลย้อน ทำให้ไม่สามารถหายใจได้
- มอร์ฟีน การให้มอร์ฟีนกับผู้ป่วยเพื่อช่วยให้หายจากการเจ็บปวดตับอย่างเฉียบพลัน ทำให้ผู้ป่วยทุเลาได้ในช่วงแรกๆ แต่ข้อเสียทำให้อาการตับแข็งเข้าสู่ภาวะทดทอยลงไป สู่ระยะสุดท้ายกับการรักษาแบบประคับประคอง อีกทั้งมอร์ฟีนตกค้างที่ตับ ทำให้ค่าตับอักเสบสูงขึ้นๆ
ศูนย์ออนไลน์ดูแลผู้ป่วยโรคตับ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโรคตับฟรี!
ประทับใจกับบริการหลังการขาย ดูแลดุจญาติมิตร ให้คำแนะนำปรึกษาอย่างละเอียด จากผู้เชี่ยวชาญตลอดการรักษาตัวที่บ้าน ฟรี
เลือกชุดโปรโมชั่น ชุดฟื้นฟูตับ คลิกเลย