สมุนไพรต้านโคโรน่าไวรัส นวัตกรรมใหม่สารสกัดจากคาวตองเข้มข้น โดยนักวิจัย

สมุนไพรต้านโคโรน่าไวรัส ถูกคิดค้น วิจัยและพัฒนาโดย ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ผู้ก่อตั้ง สถาบันวิจัย NSPi ได้ทำการวิจัย ค้นหา สมุนไพรไทย ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสโควิท-19 โดยอาศัยประสบการณ์ เมื่อครั้ง โรคซาร์ส ได้เคยระบาด มาก่อนหน้านี้ ในอดีตที่ ประสบความสำเร็จ ยาต้านไวรัสโรคซาร์ส มาแล้ว

ย้อนรอย โรคซาร์ส ก่อนจะมาเป็น สมุนไพรต้านโคโรน่าไวรัส

องค์การอนามัยโลก ระบุว่า โรคซาร์ส(SARS) เป็นโรคอาการ ทางเดินหายใจ เฉียบพลัน รุนแรง – พบการระบาด ครั้งแรก ของโรคซาร์ส ในมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2545 ระบาดไปที่ ฮ่องกง และต่อมา ที่เวียดนาม สิงคโปร์ และแคนาดา โดยต่อมา มีผู้พบโรคนี้ ในที่อื่น ๆ ซึ่งรวมถึง ในสหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ ไต้หวัน เยอรมนีและไทย
โรคซาร์ส ( Severe Acute Respiratory Syndrome; SARS) เป็นโรค ในกลุ่มอาการทางเดินหายใจ เฉียบพลัน รุนแรง เป็นโรคติดต่อ ที่เกิดจาก เชื้อไวรัส ทำให้มี ไข้สูง ไอแห้ง หอบ หรือหายใจลำบาก

ทำความรู้จัก ไวรัสโควิด-19

กำเนิดมาจาก เชื้อไวรัสโคโรน่า ในค้างคาวและเกิดการกลายพันธ์ ทำให้ได้เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โรคนี้แพร่กระจายเชื้อ ทางอากาศ โดยสารคัดหลั่ง ออกมาทางปาก หรือผู้ป่วยต้องไอ ไอมีเสมหะ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิด ในระยะ 1-2 เมตร สูดดม เข้าไป และมีการแพร่เชื้อ โดยสัมผัส ซึ่งเกิดน้อยมาก ระยะฟักตัว ของโรคโดยทั่วไป 14 วัน แต่มีบางราย ที่ฟักตัว นานถึง 24 วัน ส่วนมาก จะมีอาการ ระหว่าง 3-7 วัน เมื่อไวรัสเข้าไปในเซลล์ ของเยื่อบุหลอดลม จึงเกิดโรคได้ จะทำลายเซลล์ ในหลอดลมและปอด ทำให้ปอดอักเสบและหายใจล้มเหลว ในที่สุด โดยเฉพาะ ในผู้ป่วยสูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคเบาหวาน ความดัน อาการจะรุนแรงมากขึ้น

อาการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 มีดังนี้

มีไข้
ไอ จาม
น้ำมูกไหล
จมูกไม่ได้กลิ่น
ลิ้นไม่ได้รส
รู้สึกอ่อนเพลีย

ไวรัสโควิด 19 เข้าไปทำลายเซลล์ในปอด จะทำให้เกิดอาการแบบรุนแรง มีดังนี้

หายใจถี่หรือหายใจลำบาก
รู้สึกเจ็บหน้าอก
รู้สึกแน่นหน้าอก
เวลาหายใจเจ็บขั้วปอดเหมือนมีเข็มมาแทง

มีรายงานจาก นักวิจัยทั่วโลก รวมทั้ง กรมการแพทย์แผนไทย เป็นที่ยอมรับว่า”คาวตองหรือพลูคาว”สามารถป้องกันไวรัสได้ อย่างมีนัยสำคัญ

นักวิจัย ค้นพบ จุดอ่อน โคโรน่าไวรัส คลิก อ่านรายละเอียด….

ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร นักวิจัย คิดค้น VILERTONG นวัตกรรม สมุนไพร ต้านโคโรน่าไวรัส

อ.ย.เลขที่ 50-2-05159-5-0030

ส่วนประกอบใน 1 แคปซูล มีสารสกัด สมุนไพร ที่สำคัญ ดังนี้

1.สารสกัดคาวตอง(Hottuynia cordata extract) 300 mg. :ต้านเชื้อโคโรน่าไวรัส,ทำลายเซลล์มะเร็ง,ต้านการอักเสบ,ขจัดสารพิษ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

2.สารสกัดขมิ้นชัน(Turmeric extract) 25 mg. :ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รักษาแผล ช่วยระบบย่อยอาหาร บำรุงตับ ทำลายเซลล์มะเร็ง

3.ผงใบหม่อน(Mulberry powder) 10 mg. : ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ลดความดัน-คลอเรสเตอรอล-น้ำตาลในเลือด

สมุนไพร ต้านโคโรน่าไวรัส ยังมีส่วนประกอบ ที่สำคัญอื่นๆ ดังที่ระบุใว้ในฉลาก

นอกจากนั้นยังมีวิตามิน D3 ปริมาณ 4,000 unit /capsule ในรายงานวิจัยทางการแพทย์ของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่า หากร่างการได้รับวิตามิน D3 วันละ 10,000 unit สามารถทำลายไวรัสโควิด 19 ได้ ซึ่งเมื่อเราทาน”ไวเลอตอง” วันละ 3 แคปซูล ก็เพียงพอแล้ว

และนอกจากนั้นยังมีรายงานผลงานวิจัยพบว่า สารเคอร์คูมิน ในขมิ้นสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้

ยิ่งเหมาะสำหรับ ผู้ป่วยวัณโรค โรคปอด ปอดติดเชื้อ ปอดอักเสบ สารสกัดจากคาวตองเข้มข้น และสารสกัดจากขมิ้นชัน ช่วยในการทำลายเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และยังมีเม็ดพลังงาน ช่วยในการทำให้ร่างกายแข็งแรง กระปี้กระเปร่า ได้อีกด้วย

รู้สู้ภัย ไวร้สร้าย ด้วย นวัตกรรมสมุนไพร “ไวเลอตอง VILERTONG” เพียงวันละ 2 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า-เย็น เพื่อป้องกัน สำหรับเด็กให้ทานครั้งละ 1/2 แคปซูล

กรณี มีอาการ ติดเชื้อ ไวรัสร้าย ให้ทานครั้งละ 3 แคปซูล หลังอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น และก่อนนอน รวม 4 เวลา

รีวิวผู้ป่วยอายุ 27 ปี ติดไวรัสร้าย ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ไปรับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อน 5 คน มีอาการไอ จาม มีน้ำมูก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวแต่ไม่มีไข้ได้ 2 วัน มีสเลสติดคอ 4-5 วัน ซึ่งเพือนติดโควิด19 ทั้ง 4 เลย ไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล ตอนเวลา 1 ทุ่ม แล้วมารอฟังผลที่คอนโด ตอนเช้าทางโรงพยาบาลโทร.มาแจ้งว่าพบเชื้อไวรัสร้าย หลังจากได้ทาน”ไวเลอตอง” ไปวันที่ 3 รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีเรี่ยวแรงขึ้นมา อาการคันคอดีขึ้น วันที่ 4 ไม่มีอาการคันคอเลย พร้อมได้ทาน”อาชิตองค์โกลด์” ด้วย พอครบวันที่ 5 อาการเป็นปรกติเลยค่ะ ส่วนกลุ่มเพื่อนนอนโรงพาบาลกันนานมากเลย 14 วันเลยค่ะ หลังจากทาน”ไวเลอตองและอาชิตองค์โกลด์” ครบ 14 วัน ได้ไปตรวจเชื้อไวรัส อีกที ผลปรากฎว่าไม่พบเชื้อไวรัสร้าย ดีใจมากๆเลยค่ะ